ถ้าคุณไม่ขับถ่ายทุกวัน จะเป็นยังไง?
คุณ ! เคยเป็นอาการแบบนี้ไหม
-น้ำถูกดูดกลับ ทำให้อุจจาระแข็ง
-คราบตะกรันเศษอาหารเกาะตามผนังลำไส้
-ของเสียตกค้าง นำไปสู่ “ไส้เน่า”
-สารพิษสะสมในร่างกาย
-พีคสุดคือ “มะเร็งลำไส้”
เพราะฉะนั้น เราจึงต้องดีท็อกซ์ลำไส้ ล้างลำไส้ เพื่อป้องกันผลเสียที่ตามมาจากการที่คุณไม่ขับถ่ายทุกวัน
คราวนี้มาดูกันว่าการดีท็อกซ์ มีประโยชน์และผลดีอย่างไร
- ช่วยทำความสะอาดลำไส้ อุจจาระ แบคทีเรียที่เป็นโทษต่อร่างกาย และสารพิษต่างๆจะถูกชะล้างออกไป
- ลดการสะสมสารพิษ เมื่อสารพิษเหล่านี้ถูกกำจัดออกไป ลำไส้จะสามารถทำงานได้ตามปกติ
- เป็นการบริหารกล้ามเนื้อลำไส้ ของเสียที่ตกค้างมีผลทำให้ลำไส้อ่อนแอลง และทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ การล้างลำไส้จึงเป็นการช่วยส่งเสริมกล้ามเนื้อลำไส้ให้ทำงานได้มากขึ้น ทำงานได้เป็นจังหวะ จึงช่วยในการผลักดันของเสีย เช่น กากอาหาร และอุจจาระออกจากลำไส้ได้เร็วขึ้น
- ทำให้ลำไส้มีขนาดเป็นปกติ เมื่อลำไส้ทำงานอย่างผิดปกติ จะส่งผลให้โครงสร้างและขนาดลำไส้เปลี่ยนไป ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา การล้างลำไส้ช่วยให้ลำไส้เกิดการเคลื่อนตัว ช่วยลด อาการบวมหรือโป่งพองของลำไส้ อันเนื่องมาจากการที่มีของเสียอุดตันบริเวณนั้น ทำให้ลำไส้มีรูปร่างกลับมาปกติ
- กระตุ้นจุดตอบสนองของระบบอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งอวัยวะทุกส่วนจะมีการทำงานเชื่อมต่อกับลำไส้ โดยจุดตอบสนอง การล้างลำไส้เป็นการช่วยกระตุ้นจุดที่ว่านี้ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกาย โดยรวม เช่น ตับ ถุงน้ำดี ตับอ่อน ไต ต่อมน้ำเหลืองและการหมุนเวียน ของเลือด
- ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำ 60-70% การสวนล้างลำไส้ด้วยน้ำสะอาดหรือ น้ำเกลือแร่ ร่างกายโดยรวมจะ สามารถดูดซึมน้ำเหล่านั้นไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ เพื่อให้เซลล์เหล่านั้น ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับละลายและเจือจาง เมือกที่สะสมอยู่ในผนังลำไส้ให้ขับออกได้สะดวกขึ้น
เป็นนวัตกรรมการดีท็อกซ์สมัยใหม่ ตัวช่วยง่ายๆ สำหรับสาวๆที่ต้องการขับของเสียและไขมัน สกัดจากเมล่อนถึง5เท่า ราสเบอร์รี่ และผลไม้ที่มีวิตามินซีอย่างสตรอเบอร์รี่ ดีท๊อกซ์รสชาติเมล่อน มีส่วนช่วยในการขจัดแบคทีเรียที่ไม่มีประโยชน์ ให้ออกไปจากร่างกาย เป็นผลให้สุขภาพดีขึ้นได้จากภายใน สู่ภายนอก ช่วยให้สาวๆผิวพรรณสดใส ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
ดื่มง่ายสุด ๆ ด้วยคุณสมบัติของเส้นใยอาหารและสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยลดอาการท้องผูกและขจัดสารพิษในร่างกายขับของเสียตกค้าง ลดการก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ พร้อมเสริมสร้างการบำรุงร่างกายด้วยสารอาหารจากธรรมชาติ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งมีออร่า บำรุงสมอง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และยังช่วยในการควบคุมน้ำหนักและลดความอ้วนอีกด้วย
คำถามที่พบบ่อย
1.Per Fiber Plus 1 กล่องมีกี่ซอง?
ตอบ : หนึ่งกล่องมี 5 ซอง
2 ควรรับประทานอย่างไร ทานต่อเนื่องกี่วัน?
ตอบ : เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
“กรณีที่ท้องผูกไม่มาก ควรทานวันเว้นวัน นาน 1 เดือน”
กรณีที่ท้องผูกมาก (ถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์) แนะนำให้ ทุกวันในสัปดาห์แรก หลังจากนั้น ทานสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เป็นเวลา 1 เดือน เพราะลำไส้ต้องใช้เวลาในการปรับสมดุลตามธรรมชาติประมาณ 1-3 เดือนแล้วแต่บุคคล
3.ทานซองแรกแล้วจะถ่ายเลยมั้ย?
โดยปกติแล้ว หลังจากทาน 1-2 ซอง จะถ่ายประมาณ 1-3 ครั้ง ซึ่งในวันแรกๆ จะเป็นการขับของเสียที่หมักหมม ตกค้างในลำไส้ออกมา บางท่านที่มีของเสียสะสมมากจึงอาจถ่ายเยอะกว่าปกติ แต่บางท่าน (เป็นจำนวนน้อย) อาจต้องใช้เวลา 2-3 วัน ซึ่งอาจเกิดจากดื่มน้ำน้อยเกินไป (ควรดื่มน้ำ 1-2 แก้วหลังทาน Per Fiber Plus) หรือ ระบบลำไส้ไม่ปกติ อาจมีเมือกไขมันเกาะติดอยู่มาก ดังนั้นจึงต้องทานติดต่อกันทุกวันและดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อปรับสมดุลให้ขับถ่ายปกติ ซึ่งอาจใช้เวลา 3-5 วัน
4.ทำไมทานแล้ว ถ่ายบ่อยมาก?
คุณอาจจะเป็นคนที่ถ่ายง่ายอยู่แล้ว หรือธาตุอ่อน จะขับถ่ายมากขึ้น ให้ปรับปริมาณในการทานเหลือ”ครึ่งซอง” แล้วดื่มน้ำตามมากๆ หรืออีกกรณีหนึ่งคือ มีจุลินทรีย์ดีๆในลำไส้น้อย มีของเสียสารพิษตกค้างเยอะ Per Fiber Plusจะค่อยๆ ปรับสมดุลจนขับถ่ายเป็นปกติ
5. ทานแล้วจะปวดบิดมั้ย?
ไม่ค่ะ หลังทานPer Fiber Plusแล้วจะเป็นการปวดถ่ายปกติ เนื่องจากเราไม่มีส่วนผสมของยาถ่าย ยาระบายซึ่งไปออกฤทธิ์บีบลำไส้อย่างรุนแรงจนเกิดอาการปวดบิด คุณจะรู้สึก “ฟู นุ่ม ฟิน
6. ทานต่อเนื่อง จะมีผลข้างเคียงหรือไม่
ตอบด้วยความมั่นใจได้เลย ว่าไม่มีแน่นอน เพราะสารสกัดทุกตัวใน Per Fiber Plus มาจากธรรมชาติ100%และไฟเบอร์ จะช่วยปรับสมดุลลำไส้ ด้วยการเพิ่มอาหารจุลินทรีย์ดี เพิ่มมวลและความชื้นของอุจจาระ ทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น ไม่มีผลทำให้ลำไส้ดื้อยา เพราะไม่มียาถ่ายยาระบาย จึงทานต่อเนื่องได้